Difference between revisions of "Main Page"

From Hikvision Guides
Jump to: navigation, search
m
m
Line 1: Line 1:
<p>ดอกกุหลาบมีความหมายเชิงสัญลักษณ์หลายประการ กุหลาบสามารถใช้เพื่อเป็นสัญลักษณ์ของมิตรภาพ ความรัก หรือความเสน่หา ดอกกุหลาบมีให้เลือกหลายเฉดสีและสื่อข้อความได้หลากหลาย ตัวอย่างเช่น สีเขียวเป็นสัญลักษณ์ของการเติบโตและการเริ่มต้นใหม่ ในขณะที่ดอกกุหลาบสีแดงเป็นสัญลักษณ์ของความรัก กุหลาบสีดำสามารถเป็นสัญลักษณ์ของความสัมพันธ์ใกล้ชิด เช่น สำนวน 'sub-rosa'</p><br /><br /><h2>กุหลาบแดง</h2><br /><br /><p>ในฐานะที่เป็นสียอดนิยมสำหรับดอกกุหลาบและอาจเป็นสัญลักษณ์ของความรักที่เป็นที่รู้จักมากที่สุดในโลก ดอกกุหลาบเหล่านี้มักเชื่อมโยงกับความโรแมนติกและความรัก กุหลาบแดง หมายถึง ความรักเมื่อมองแวบแรก หรือคำสัญญาของคุณจะมีอนาคตที่สดใส กุหลาบสีแดงเป็นสัญลักษณ์ของความกล้าหาญและความอุตสาหะในช่วงเวลาที่ยากลำบาก หนามที่ประดับดอกกุหลาบเป็นเครื่องเตือนใจถึงการต่อสู้และอุปสรรคที่มาพร้อมกับความรักที่แท้จริง</p><br /><br /><p>ในอดีต ตำนานของกรีกและโรมันถือว่าดอกกุหลาบสีแดงเกิดจากความรักและความเสน่หาที่โรแมนติก อะโฟรไดท์ เทพีแห่งความโรแมนติกพบว่าอโดนิสคนรักของเธอกำลังถูกฆาตกรรม เมื่อเธอรีบไปแจ้งอโดนิสถึงแผนการนี้ เธอได้ฟันข้อเท้าขณะเหยียบหนามของต้นไม้ เลือดที่เกิดจากบาดแผลของเธอทำให้ดอกไม้กลายเป็นสีแดง ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา ดอกกุหลาบจึงเป็นสัญลักษณ์ของความสวยงาม ความรัก และความงาม</p><br /><br /><p>นอกเหนือจากการเชื่อมโยงกับความรักโรแมนติกแล้ว ดอกกุหลาบสีแดงยังใช้เพื่อแสดงความขอบคุณและความชื่นชมอีกด้วย เป็นเรื่องปกติโดยเฉพาะอย่างยิ่งการให้ช่อดอกไม้ที่มีดอกกุหลาบหลากสี เนื่องจากการผสมสีของดอกไม้แต่ละดอกสามารถส่งข้อความได้ดีกว่าดอกกุหลาบสีเดียว</p><br /><br /><p>ดอกกุหลาบสีชมพูเป็นตัวแทนของความสง่างาม ความเป็นผู้หญิง และความสง่างาม ดอกกุหลาบมักใช้ในการเฉลิมฉลอง เช่น งานพรอม งานหมั้น รวมถึงการอาบน้ำสำหรับเด็กทารก กุหลาบขาวหมายถึงความบริสุทธิ์ ในขณะที่ดอกกุหลาบสีเหลืองหมายถึงมิตรภาพ มักจะมอบให้ในงานศพหรืองานแต่งงาน ดอกกุหลาบสีเข้มแสดงถึงความซาบซึ้งและความจริงใจของคุณ ในขณะที่ดอกกุหลาบสีชมพูสีอ่อนสามารถสื่อถึงความเห็นอกเห็นใจและความเข้าใจ</p><br /><br /><h2>ดอกกุหลาบสีชมพู</h2><br /><br /><p>ดอกกุหลาบสีชมพูและเฉดสีอ่อน เป็นสัญลักษณ์ของความรักที่อ่อนโยนยิ่งขึ้น สีชมพูอันละเอียดอ่อนของดอกไม้สามารถนำไปใช้เพื่อสื่อถึงความรักฉันท์มิตร ความเคารพ ความเห็นอกเห็นใจ และมิตรภาพ</p><br /><br /><p>ดอกกุหลาบสีชมพูเป็นสถานที่ที่น่าอิจฉาในโลกแห่งศิลปะ เป็นดอกกุหลาบสีแรกๆ ที่พบในภาพวาดโบราณ เชื่อกันว่าเป็นสีกุหลาบที่มีความหลากหลายมากที่สุดสีหนึ่ง สีชมพูอ่อนสื่อถึงความสุข ดอกที่บานสะพรั่งเต็มต้นแสดงถึงความซาบซึ้งและความซาบซึ้งใจ เฉดสีดอกกุหลาบของดอกกุหลาบสีชมพูเป็นสัญลักษณ์ของการเริ่มต้นใหม่ที่น่าตื่นเต้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อพูดถึงความสัมพันธ์ที่โรแมนติก</p><br /><br /><p>ดอกกุหลาบสีชมพูเป็นช่อดอกไม้เจ้าสาวที่ได้รับความนิยมมากที่สุด เนื่องจากสื่อถึงอารมณ์แห่งความงาม ความสง่างาม และความรัก ดอกกุหลาบสีชมพูยังสื่อถึงความอ่อนเยาว์ การเริ่มต้นใหม่ และการเริ่มต้นใหม่อีกด้วย สีที่สว่างกว่าเป็นสัญลักษณ์ของมิตรภาพและความรักฉันมิตร</p><br /><br /><p>เฉดสีเข้มของดอกกุหลาบ เช่น เบอร์กันดีและมารูน มักสื่อถึงความหลงใหล ความปรารถนา และความรักที่เร่าร้อน เฉดสีดอกกุหลาบที่เข้มกว่ามักใช้ในรอยสักเพื่อให้มีลักษณะเฉพาะและสง่างาม</p><br /><br /><p>ผู้ชื่นชอบดอกกุหลาบที่ชอบสีที่เบากว่าที่เป็นกลาง มีดอกกุหลาบสีชมพูหลากหลายชนิดที่สามารถพบเห็นได้ในสวนของเรา กุหลาบชาลูกผสมที่มีชื่อว่า 'Earth Angel' เป็นกุหลาบที่สวยงามมีกลีบเป็นบลัชออนหลายเฉด มีตั้งแต่กลีบดอก แอปริคอท ไปจนถึงเปลือกสีชมพูเมื่อขยายตัว ไม้พุ่มดอกร่วมสมัย กุหลาบ "Ballerina" มีดอกคล้ายดอกแอปเปิ้ล มีกลิ่นหอมอ่อนๆ ดอกไม้ชนิดนี้มีสีสันสดใสกว่าเรียกว่า 'เอเดน' ซึ่งเป็นดอกกุหลาบที่มีกลีบซึ่งมีสีชมพูเข้มและมีลูกพีชอยู่ข้างใต้</p><br /><br /><h2>กุหลาบสีเหลือง</h2><br /><br /><p>ดอกกุหลาบสีเหลืองมักสื่อถึงความสุขและความเสน่หา นี่เป็นวิธีที่ดีในการทำให้ใครบางคนรู้ว่าคุณใส่ใจความรู้สึกของพวกเขามากแค่ไหนและความผูกพันของคุณยังคงแข็งแกร่ง นอกจากนี้ยังทำให้พวกเขารู้ว่าคุณรู้สึกขอบคุณสำหรับความช่วยเหลือและความทุ่มเทของพวกเขา กุหลาบสีเหลืองยังเป็นโอกาสที่จะแสดงความหวังของคุณสำหรับอนาคตที่สดใสอีกด้วย</p><br /><br /><br /><br /><br /><br /><p>ดอกกุหลาบสีเหลืองสดใสร่าเริงชวนให้นึกถึงแสงแดดและความอบอุ่น ดอกไม้เหล่านี้เป็นของขวัญที่สมบูรณ์แบบสำหรับคนที่ต้องการให้ฉันมารับหรือย้ำเตือนถึงความสำคัญที่ดอกไม้เหล่านั้นมีต่อคุณ นอกจากนี้คุณยังสามารถใช้ดอกกุหลาบสีเหลืองเพื่อแสดงความขอบคุณต่อเพื่อนร่วมงานหรือเพื่อน หรือส่งคำแสดงความยินดีกับคนที่เพิ่งทำงานยากๆ เสร็จก็ได้</p><br /><br /><p>มีการใช้กันอย่างแพร่หลายเพื่อเป็นสัญลักษณ์ของความสุขและความเสน่หา แต่ความสำคัญของมันก็มีการพัฒนาไปตามยุคสมัย ศตวรรษที่ 19 เป็นช่วงที่ดอกกุหลาบสีเหลืองสามารถตีความได้ว่าเป็นสัญญาณของความอิจฉาริษยาและนอกใจ ดอกกุหลาบยังเกี่ยวข้องกับการเสียชีวิตของบุคคลอันเป็นที่รักและนำไปใช้ในพิธีศพอีกด้วย ดอกไม้เหล่านี้ยังคงมีความหมายถึงความตายและการไว้ทุกข์ในวัฒนธรรมตะวันออกบางแห่ง</p><br /><br /><p>ในปัจจุบัน ดอกไม้เหล่านี้ถูกมองว่าเป็นการแสดงออกถึงความรักและความรัก ดอกไม้สามารถมอบให้กับคู่รักที่แสนโรแมนติกเพื่อเป็นสัญลักษณ์แห่งความรักและความมุ่งมั่นที่มีต่อคู่รักของคุณ นอกจากนี้ยังสามารถมอบเป็นของขวัญให้กับสมาชิกในครอบครัวและเพื่อนฝูงที่แสดงความรักและความซาบซึ้งต่อทุกสิ่งที่พวกเขาทำเพื่อพวกเขา ดอกกุหลาบสีเหลืองเป็นวิธีการที่ดีเยี่ยมในการแสดงความขอบคุณต่อความสำเร็จของใครบางคน พวกเขาเตือนพวกเขาว่าคุณชื่นชมความพยายามของพวกเขา ดอกกุหลาบยังสามารถมอบให้กับผู้เสียชีวิตได้เนื่องจากเป็นสัญลักษณ์ของการมองโลกในแง่ดีและชีวิต</p><br /><br /><h2>กุหลาบสีเขียว</h2><br /><br /><p>ดอกกุหลาบสีเขียวมักใช้เป็นสัญลักษณ์ของคำมั่นสัญญาในการเริ่มต้นใหม่ ความหวัง และการต่ออายุ นอกจากนี้ยังเป็นสัญลักษณ์ของความกตัญญู ความกตัญญู และมิตรภาพอีกด้วย นอกจากนี้ยังสามารถเป็นสัญลักษณ์ของความสงบและความสมดุลอีกด้วย นี่เป็นตัวเลือกที่ยอดเยี่ยมเมื่อให้ของขวัญกับคนพิเศษหรือฉลองวันเกิดหรือวันครบรอบ ในการจัดดอกไม้และของกลางและของประดับกลางดอกกุหลาบสีเขียวที่สวยงามโดดเด่น</p><br /><br /><p>นอกจากนี้ ยังเป็นส่วนเสริมที่สวยงามให้กับช่อดอกไม้และการเตรียมงานแต่งงานอีกด้วย เป็นสัมผัสที่สดชื่นและเป็นธรรมชาติสำหรับการเฉลิมฉลองใดๆ ดอกกุหลาบสีเขียวที่หายากกว่าสีอื่นๆ เป็นวิธีที่ดีในการแสดงออกว่าคุณใส่ใจมากแค่ไหน</p><br /><br /><p>ดอกกุหลาบสีเขียวยังเป็นทางเลือกที่ได้รับความนิยมมากที่สุดสำหรับดอกไม้แสดงความเห็นอกเห็นใจ โดยปกติแล้วพวกเขาจะจับคู่กับดอกไม้เฉดสีอื่นๆ เพื่อสร้างการจัดแสดงที่สวยงามซึ่งสื่อถึงความรู้สึกเห็นอกเห็นใจและความเห็นอกเห็นใจ นอกจากนี้ยังสามารถใช้เพื่อแสดงอารมณ์แห่งความหวังและการมองโลกในแง่ดีได้ด้วยตัวเอง</p><br /><br /><p>กุหลาบสีเขียวมีลักษณะตรงกันข้ามกับดอกกุหลาบส่วนใหญ่ โดยมีกลีบเลี้ยงมากกว่ากลีบดอก อาจเป็นเพราะการกลายพันธุ์ทางพันธุกรรมบางอย่างของสายพันธุ์ กลีบเลี้ยงก่อตัวเป็นวงเริ่มต้นของดอกไม้และเป็นกลีบที่ทำให้มีรูปร่างที่โดดเด่น</p><br /><br /><p>ในโลกอันลึกลับ ดอกกุหลาบสีเขียวเป็นสัญลักษณ์ของการเชื่อมต่อกับโลกธรรมชาติอีกครั้ง สีเขียวเชื่อกันว่าช่วยเชื่อมโยงบุคคลกับพลังงานของพระแม่ธรณีและเปิดจักระของหัวใจ เชื่อกันว่ามีความเกี่ยวข้องกับอัครเทวดาราฟาเอล เขามีชื่อเสียงในด้านการรักษา การส่งดอกไม้สีเขียวให้ผู้ป่วยเป็นวิธีการอวยพรให้พวกเขาโชคดีในการฟื้นตัว</p><br /><br /><p>สีเขียวของดอกกุหลาบเป็นองค์ประกอบสำคัญในเกม RPG Vampyr ในยุค 90 เกมนี้ใช้เป็นเครื่องรางที่มีประสิทธิภาพซึ่งจะเพิ่มโอกาสในการกลับชาติมาเกิดและป้องกันการโจมตีของแวมไพร์ อย่างไรก็ตาม ดอกกุหลาบสีน้ำเงินเป็นสัญลักษณ์ของความรักที่ไม่สมหวังและโรแมนติกที่ยังเป็นปริศนา</p><br /><br /><h2>กุหลาบดำ</h2><br /><br /><p>กุหลาบดำ กุหลาบดำเป็นดอกไม้ที่สื่อถึงความตาย ความมืดมน และความแข็งแกร่ง นอกจากนี้ยังเกี่ยวข้องกับความรักลึกลับและความรักต้องห้ามอีกด้วย การใช้กุหลาบดำในวรรณคดีและศิลปะเพื่อสื่อสารอารมณ์อันน่าทึ่งและสร้างถ้อยคำอันน่าทึ่ง</p><br /><br /><p>ดอกไม้สีเข้มเหล่านี้ถูกใช้มาตั้งแต่เริ่มต้นของกรีซและโรม และถูกนำมาใช้ในภาษาของดอกไม้เพื่อส่งข้อความที่เข้ารหัส พวกเขายังได้รับความนิยมในยุควิคตอเรียนซึ่งกลายเป็นสัญลักษณ์ของความลึกลับและการล่มสลาย สมาคมลับใช้สิ่งเหล่านี้เป็นสัญลักษณ์ของการทรยศหักหลังและความยุติธรรม</p><br /><br /><p>ดอกกุหลาบสีเข้มเหล่านี้ยังใช้เพื่อเป็นตัวแทนของการเกิดใหม่และการเปลี่ยนแปลง แม้ว่าดอกกุหลาบเหล่านั้นมักจะเกี่ยวข้องกันก็ตาม ในนิยาย มีการใช้เพื่อทำให้การเล่าเรื่องเข้มข้นขึ้นโดยการสร้างความรู้สึกคาดหวังต่อส่วนเรื่องราวของตัวละครสำคัญ นอกจากนี้ยังสามารถใช้เพื่อส่งสัญญาณการยุติความสัมพันธ์ใกล้ชิด หรือยุติวิถีชีวิตแบบเก่าๆ</p><br /><br /><p>นอกจากนี้ คุณยังสามารถใช้ดอกไม้สีดำเพื่อเป็นเกียรติแก่บุคคลที่จากไปซึ่งไม่ได้อยู่กับเราอีกต่อไป นอกจากนี้ยังเป็นสัญลักษณ์ของการกบฏต่อรัฐบาลอีกด้วย ทุกวันนี้ พวกเขาถูกยอมรับโดยพวกอนาธิปไตยและนักสังคมนิยมเสรีนิยมเพื่อจุดประสงค์ในการแสดงความคิดเห็น</p><br /><br /><p>ไม่มีดอกกุหลาบสีดำตามธรรมชาติ แต่สามารถทำได้หลายวิธี คนขายดอกไม้สามารถย้อม พ่น หรือจุ่มดอกกุหลาบเพื่อสร้างร่มเงาสีเข้มได้ ดอกกุหลาบมักถูกนำมาใช้ในการจัดดอกไม้ซึ่งทำให้งานศิลปะดูน่าทึ่งและน่าสนใจ</p><br /><br /><p>ลองนึกถึงการมอบช่อดอกไม้สีดำให้กับคนที่คุณรักเป็นของขวัญที่มีความหมายและไม่เหมือนใคร นี่จะแสดงให้คุณเห็นว่าคุณมองเห็นความงามของพวกเขาในช่วงเวลาที่ยากลำบากที่สุดได้อย่างไร สามารถใช้เพื่อทำเครื่องหมายเหตุการณ์สำคัญที่คุณได้บรรลุแล้ว เช่น การเกษียณอายุ</p><br /><br />
+
<p>เมื่อเรานึกถึงเทพเจ้าแห่งความรักของโรมัน คิวปิดก็ปรากฏขึ้นในใจของเรา เขาไม่ได้เป็นอย่างที่เขาปรากฏเสมอไป บิดาของดาวศุกร์ (อโฟรไดท์) เช่นเดียวกับดาวอังคาร เทพเจ้าแห่งสงคราม ดาวอังคารยังเป็นเทพเจ้าแห่งความรักและความปรารถนาตลอดจนแรงดึงดูดทางเพศ ธนูและธนูของเขาเต็มไปด้วยลูกธนูสีทองแห่งความเสน่หา และลูกธนูแห่งความสิ้นหวัง กลอุบายอันบ้าคลั่งที่เขาแสดงทำให้ทุกคนติดใจ</p><br /><br /><h2>คิวปิด</h2><br /><br /><p>คิวปิดเป็นที่ชื่นชอบของศิลปินตลอดหลายศตวรรษที่ผ่านมา ความหมายเบื้องหลังใบหน้าของกามเทพอาจแตกต่างกันไป แต่เป็นสัญลักษณ์ของความงามและพลัง ในโลกของกวีนิพนธ์ ศิลปะ และการละคร (รวมถึงภาพวาดและประติมากรรม) ตลอดจนเรื่องราวของคิวปิดและไซคีได้รับการบอกเล่า เรื่องราวทางเพศเป็นไปตามมาตรฐานร่วมสมัย แต่ยังเป็นตัวอย่างของความสัมพันธ์ด้วยความรักและความห่วงใยที่อยู่เหนือความปรารถนาอีกด้วย</p><br /><br /><p>เรื่องราวมีรากฐานมาจากเทพนิยายกรีก เรื่องราวของคิวปิดและไซคีเป็นเรื่องราวเหนือกาลเวลา ต้นกำเนิดของเรื่องราวคือการร่วมประเวณีระหว่างพี่น้องและราคะ ในเวลาต่อมาก็เชื่อมโยงกับความรักที่แท้จริง กามเทพเหมือนกับเทพเจ้าโรมันอื่นๆ ไม่มีรูปปั้นหรือสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ ในทางกลับกัน ในงานศิลปะ เขามักถูกพรรณนาว่าเป็นชายหนุ่มนักกายกรรมที่ถือลูกธนูและธนู มีความเชื่อว่าชื่อตั้งต้นที่มอบให้กับเทพเจ้าองค์นี้คืออีรอส เขายังคิดว่าเป็นบิดาของดาวศุกร์และดาวอังคารด้วย</p><br /><br /><p>เรื่องราวดังต่อไปนี้กามเทพหลงรักหญิงสาวที่ชื่อไซคี เสน่ห์ดึงดูดใจจุดประกายด้วยความงามของเธอ เขาจึงล่อเธอด้วยธนูวิเศษ ไซคีสามารถต้านทานเสน่ห์ของเขาได้ แต่เธอกลับหลงรักพลังของลูกธนูอย่างลึกซึ้ง นี่ไม่ใช่ประสบการณ์ที่น่ายินดีสำหรับแม่ของเธอ ซึ่งเป็นเหตุผลว่าทำไมเธอถึงบอกกามเทพให้กลับไปยังดาวศุกร์ คิวปิดใส่ใจต่อคำแนะนำของเธอและไม่เต็มใจที่จะทิ้งความหลงใหลของเขาไว้กับไซคี จากนั้นพวกเขาก็กลับมาพบกันอีกครั้งในวังสวรรค์ กามเทพขออนุญาตให้ซุสทำพิธีแต่งงาน ซุสตกลงเพื่อแลกกับความช่วยเหลือในอนาคตของคิวปิดกับหญิงสาวผู้เลือกสรร เทพเจ้าเสนอ Psyche Ambrosia ซึ่งเป็นเครื่องดื่มอมตะ</p><br /><br /><p>เทพีแห่งความรักของโรมันมักแสดงโดยถือพิณหรือคันธนูและลูกธนู ผมยาวสลวยของเขาดูเปล่งประกาย พวงมาลัยลอเรลสามารถสวมที่คอของเขาเพื่อทำหน้าที่แทนสัญลักษณ์ของชาวเวอร์จิเลียน โดยพูดว่า "amor vincit Omnia" และหมายถึงความรักที่มีชัยชนะเหนือทุกสิ่ง เขาดูซุกซนเพราะบุคลิกที่ร่าเริงของเขา เขาไม่คำนึงถึงความถูกต้องหรือศีลธรรม และใส่ความกระตือรือร้นเข้าไปในหัวใจที่ไม่เช่นนั้นจะเป็นโสดตามกฎหมาย เทพเจ้าผู้ร่าเริงของเขายังดึงดูดแม่สามีของเขาด้วยซ้ำ ทำให้เธอมีส่วนร่วมในเรื่องทางเพศมากมาย</p><br /><br /><h2>ดาวศุกร์</h2><br /><br /><p>วีนัสเป็นเทพีแห่งความงาม ความรักความอุดมสมบูรณ์ ความงาม และสวนของโรมัน นอกจากนี้เธอยังเป็นหนึ่งในมารดาของคิวปิดและยิงธนูแห่งความหลงใหลในหัวใจของทั้งชายและหญิง คิวปิด เทพเจ้าแห่งความโรแมนติกที่ปรากฏอยู่ในการ์ดอวยพรวันวาเลนไทน์หลายแบบ รวมถึงงานศิลปะและภาพวาดยุคเรอเนซองส์ ถือเป็นรูปเทวดาเครูบ ช่วงเวลาที่เขาโด่งดังคือช่วงยุคกลาง และระหว่างยุคเรอเนซองส์ เมื่อความหลงใหลในเทพนิยายกลับมาอีกครั้ง เขาก็มีชื่อเสียงอย่างมาก</p><br /><br /><br /><br /><br /><br /><p>Venus Like Aphrodite ในตำนานเทพเจ้ากรีกเป็นหญิงสาวที่สวย มีผมสีทองสวยงามและมีลักษณะที่ละเอียดอ่อน ภาพที่พบบ่อยที่สุดของเธอคือการอุ้มเด็กในครรภ์หรือดอกไม้เพื่อแสดงด้านความเป็นแม่ของเธอ แม้ว่าโดยปกติแล้วเธอจะเปลือยเปล่า แต่ความสุภาพเรียบร้อยของเธอไม่ได้เป็นเพียงแค่เรื่องของความต้องการทางเพศเท่านั้น</p><br /><br /><p>ดาวศุกร์ถูกรวมเข้าไว้ในวิหารแพนธีออนของโรมันอย่างเป็นทางการประมาณศตวรรษที่ 3 ก่อนคริสตศักราช ว่ากันว่าดาวศุกร์มีส่วนสำคัญในการช่วยให้โรมชนะสงครามพิวนิกร่วมกับชาวคาร์ธาจิเนียน เธอยังเพลิดเพลินกับชื่อเสียงของการเป็นเทพธิดาที่รู้จักความงาม ความโรแมนติก และความเย้ายวนใจของเธอ ชื่อของเธอได้รับการยกย่องว่าเป็นมารดาของอีเนียสซึ่งเป็นบิดาของโรม และจูเลียส ซีซาร์ได้เชื่อมโยงมรดกของครอบครัวของเขากับเชื้อสายของเธออย่างเปิดเผย</p><br /><br /><p>เชื่อกันว่าชาวโรมันได้บูชาเทพเจ้ากรีกโบราณอย่างอีรอสและแอโฟรไดท์ที่วัดของพวกเขา รวมทั้งระบุว่าวีนัสเป็นเทพด้วย ตรงกันข้ามกับ Aphrodite และ Eros วีนัสเป็นเทพีแห่งความรัก โรมัน วีนัสมีความหลงใหลนอกเหนือจากความรัก และเธออิจฉาความโรแมนติกของลูกชายกับไซคีซึ่งเป็นผู้หญิงที่เธอรัก</p><br /><br /><p>ความอิจฉานี้สามารถเห็นได้ในตำนานเกี่ยวกับลูกสาวของวีนัส คิวปิดและไซคี คิวปิดเป็นคู่รักของผู้หญิงและผู้ชายทุกคน ในขณะที่ไซคีมีความผูกพันอันแน่นแฟ้นกับอีรอสสามีของเธอ กามเทพมีด้านทางเพศที่ขี้เล่น ซึ่งมักแสดงออกผ่านกลอุบายและเกมที่สนุกสนานของเขา กามเทพยิงธนูแห่งความรักโดยไม่คำนึงถึงศีลธรรมหรือลักษณะของเหยื่อ</p><br /><br /><p>รูปปั้นวีนัสที่เก่าแก่ที่สุดที่ค้นพบคือรูปปั้นขนาดมหึมาที่แสดงภาพเธอนั่งอยู่บนแท่นบูชาพร้อมกับนก พิพิธภัณฑ์ลูฟร์เป็นที่ตั้งของรูปปั้นดาวศุกร์ที่มีอายุย้อนกลับไปตั้งแต่ศตวรรษที่ 2 หรือ 3 ก่อนคริสตศักราช ผมยาวสีเข้มของผู้หญิงประดับด้วยขอบทอง ชุดที่เธอสวมนั้นหุ้มด้วยทองคำ สีสันของเธอยังคงสดใสเพื่อเน้นใบหน้าที่น่ารักของเธอและเผยให้เห็นรูในหูที่เธอเคยใส่ต่างหู</p><br /><br /><h2>จิตใจ</h2><br /><br /><p>ในฐานะลูกสาวคนโตของราชาราชินีที่ไม่เปิดเผยชื่อ Psyche มีความสวยงามอย่างไม่น่าเชื่อ ความงามของเธอน่าทึ่งมากจนแม้แต่แอโฟรไดท์ก็ไม่สามารถเทียบเคียงเธอได้ วีนัสอารมณ์เสียเพราะผู้คนเริ่มบูชาไซคีมากกว่าอะโฟรไดท์ เธอจึงสั่งให้กามเทพลูกของเธอช่วยให้ไซคีกลายเป็นคนรักของผู้ชายที่เลวทรามที่สุด</p><br /><br /><p>คิวปิดยอมรับการท้าทาย อย่างไรก็ตาม เขาหลงใหลในความงามของแม่มากจนเขาหลงรักตัวเอง เพื่อป้องกันไม่ให้ตัวเองติดกับดักแบบเดียวกับเธอ เขาจึงทำให้ไซคีไม่มีใครสังเกตเห็น ในตอนกลางคืนเขาจะอยู่กับเธอในที่ลับบนเตียงของเธอ และพวกเขาไม่ได้รับอนุญาตให้เห็นหน้าของเขา แต่วันหนึ่ง ขณะที่เธอพิงตะเกียงเพื่อดูรายละเอียดให้เขาฟังมากขึ้น ก็มีน้ำมันหยดหนึ่งหยดลงบนหน้าผากของเขา ซึ่งทำให้เขาตื่นขึ้น เขาเสียใจมากที่น้ำมันจมหายไปโดยไม่พูดอะไร ทิ้งเธอไว้อย่างไร้เสียงและอกหัก</p><br /><br /><p>Psyche ตั้งใจแน่วแน่ว่าจะไม่ตกหลุมรักอีกต่อไป แต่เมื่อหลายปีผ่านไปเมื่อเธอเห็นพี่สาวฝาแฝดของเธอแต่งงานกันและกลายเป็นพ่อแม่เริ่มกังวลเกี่ยวกับการสร้างความวุ่นวายในครอบครัวของเธอ คำทำนายที่เธอไปเยี่ยมชมเพื่อดูว่าจะทำอะไรได้บ้าง แต่ผลลัพธ์ก็น่าตกใจ นักทำนายบอกเธอว่าเธอผูกพันที่จะแต่งงานกับมังกรที่มีรูปร่างคล้ายสัตว์ที่จะตระเวนไปทั่วโลก ทรมานทุกคนด้วยเหล็กและเปลวไฟ</p><br /><br /><p>หลังจากนั้น เธอก็เดินทางไปทั่วโลกเพื่อตามหาความรักลึกลับของเธอ ความพยายามอย่างสิ้นหวังที่จะเอาชนะความรักของสามีเธอกลับล้มเหลว และสุดท้ายเธอก็ได้รับความช่วยเหลือจากวีนัส งานของเธอทำงานหนักโดยเทพธิดา ซึ่งรวมถึงการเดินทางข้ามแม่น้ำ และการขโมยขนแกะสีทองจากแกะ ซึ่งอีกแหล่งหนึ่งระบุว่าเป็นของเฮลิออส</p><br /><br /><p>คิวปิดกำลังรอต้อนรับเธอเพื่อกลับมาหลังจากทำงานเสร็จ คิวปิดรู้สึกประทับใจกับความสันโดษของเธอมากจนเริ่มโผล่ขึ้นมาที่หน้าผากด้วยท่าทางไร้เดียงสา เหตุการณ์นั้นทำให้เขาตื่นขึ้นและทำให้เขารู้ว่าเขาตกหลุมรักไซคี จากนั้นเขาก็ทำให้ตัวเองรู้จักเธอ และในที่สุดพวกเขาก็ผูกปมกัน อย่างไรก็ตามพวกเขาก็ไม่ใช่อมตะ พวกเขาสามารถอยู่ได้เพียงชั่วครู่ก่อนที่จะกลับบ้านที่ Underworld</p><br /><br /><h2>อะโฟรไดท์</h2><br /><br /><p>ในตำนานเทพเจ้ากรีกแอโฟรไดท์เป็นเทพเจ้าแห่งความรัก ความงาม การให้กำเนิด และความรัก เทพธิดาในตำนานมักถูกพรรณนาว่าเป็นผู้หญิงที่มีเสน่ห์ผมยาวสีทอง รูปภาพส่วนใหญ่ของเธอมีดวงตาสีฟ้าอ่อน อย่างไรก็ตาม บางครั้งมันก็เป็นสีเขียว รูปร่างหน้าตาของเธอส่วนใหญ่ไม่มีการตกแต่ง อย่างไรก็ตาม ในบางกรณี มีบางครั้งที่เธอมีสัตว์หรือเด็กเข้าร่วมด้วย รูปปั้นที่มีชื่อเสียงที่สุดของเธอคือรูปปั้น Venus de Milo ซึ่งตั้งอยู่ภายในพิพิธภัณฑ์ลูฟร์ในกรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส</p><br /><br /><p>แอโฟรไดท์ได้รับการยกย่องจากชาวกรีกว่าเป็นเทพธิดาที่งดงามที่สุดแห่งหนึ่ง ภาพลักษณ์ของเธอมักถูกมองว่าเป็นแบบอย่างด้านความงามในหมู่มนุษย์ มีวัดหลายแห่งที่อุทิศให้กับเธอในกรีซ ซึ่งรวมถึงเอเธนส์, โครินธ์, สปาร์ตา และซิเธอรา ภูมิภาคอื่นๆ ของทะเลเมดิเตอร์เรเนียนก็นับถือเธอเช่นกัน</p><br /><br /><p>อะโฟรไดท์เป็นบุตรของซุสและไดโอน เทพแห่งก็อดสามพระองค์ ตำนานของอโฟรไดท์เล่าว่าเธอมีต้นกำเนิดมาจากโฟมในทะเลซึ่งเกิดฟองขึ้นเมื่อดาวยูเรนัสถูกสังหารและโยนอวัยวะเพศของเขาลงสู่มหาสมุทร ใน Theogony ของ Hesiod เธอมีความสามารถในการสร้างมนุษยชาติให้รัก นอกจากนี้เธอยังเป็นผู้อุปถัมภ์การเจริญพันธุ์ของผู้หญิงและการคลอดบุตร นอกจากนี้เธอยังปกป้องลูกเรือในทะเลอีกด้วย</p><br /><br /><p>อะโฟรไดท์เป็นที่ชื่นชอบของทั้งชายและหญิง เฮร่า เช่นเดียวกับเอเธน่าและเอธีน่าที่กำลังมองหาแอปเปิ้ลจำนวนหนึ่งให้กับเจ้าชายทรอย ทำให้เฮอร์มีสเริ่มการแข่งขันระหว่างพวกเขา เพื่อตัดสินว่าใครจะเป็นผู้ชนะ Aphrodite เป็นผู้ชนะ และต่อมาตกหลุมรักเจ้าชายโทรจันที่ชื่อ Anchises เขาถูกล่อลวงโดยเธอแกล้งทำเป็นพรหมจารี ในที่สุดเธอก็ออกมาหาเขาและมอบเด็กชายที่มีเชื้อสายสูงส่งให้เขา</p><br /><br /><p>เมื่อพูดถึงสงครามโทรจัน แอโฟรไดท์สนับสนุนโทรจัน เธอยังปกป้องอีเนียสลูกชายของเธอจากความโกรธเกรี้ยวของไดโอมีดีส ไดโอมีดีส ฮีโร่โทรจัน การแต่งงานของเธอเกิดขึ้นในเวลาต่อมากับ Hephaistos ลูกๆ ของเธอประกอบด้วยอีรอส ซึ่งเป็นเทพเจ้าแห่งความรักของกรีก และเฮอร์มาโฟดิโตส เทพเจ้าแห่งกระเทย</p><br /><br /><p>ชาวโรมันนับถืออะโฟรไดท์ในฐานะวีนัส เทพีแห่งความรัก คุณลักษณะมากมายของเธอ ได้แก่ เข็มขัดมรกตและกระจกที่เต็มไปด้วยเวทมนตร์ซึ่งทำให้ผู้คนตกหลุมรัก นกพิราบและนกนางแอ่นเป็นหนึ่งในสิ่งที่เธอรักมากที่สุด</p><br /><br />

Revision as of 00:34, 4 February 2024

เมื่อเรานึกถึงเทพเจ้าแห่งความรักของโรมัน คิวปิดก็ปรากฏขึ้นในใจของเรา เขาไม่ได้เป็นอย่างที่เขาปรากฏเสมอไป บิดาของดาวศุกร์ (อโฟรไดท์) เช่นเดียวกับดาวอังคาร เทพเจ้าแห่งสงคราม ดาวอังคารยังเป็นเทพเจ้าแห่งความรักและความปรารถนาตลอดจนแรงดึงดูดทางเพศ ธนูและธนูของเขาเต็มไปด้วยลูกธนูสีทองแห่งความเสน่หา และลูกธนูแห่งความสิ้นหวัง กลอุบายอันบ้าคลั่งที่เขาแสดงทำให้ทุกคนติดใจ



คิวปิด



คิวปิดเป็นที่ชื่นชอบของศิลปินตลอดหลายศตวรรษที่ผ่านมา ความหมายเบื้องหลังใบหน้าของกามเทพอาจแตกต่างกันไป แต่เป็นสัญลักษณ์ของความงามและพลัง ในโลกของกวีนิพนธ์ ศิลปะ และการละคร (รวมถึงภาพวาดและประติมากรรม) ตลอดจนเรื่องราวของคิวปิดและไซคีได้รับการบอกเล่า เรื่องราวทางเพศเป็นไปตามมาตรฐานร่วมสมัย แต่ยังเป็นตัวอย่างของความสัมพันธ์ด้วยความรักและความห่วงใยที่อยู่เหนือความปรารถนาอีกด้วย



เรื่องราวมีรากฐานมาจากเทพนิยายกรีก เรื่องราวของคิวปิดและไซคีเป็นเรื่องราวเหนือกาลเวลา ต้นกำเนิดของเรื่องราวคือการร่วมประเวณีระหว่างพี่น้องและราคะ ในเวลาต่อมาก็เชื่อมโยงกับความรักที่แท้จริง กามเทพเหมือนกับเทพเจ้าโรมันอื่นๆ ไม่มีรูปปั้นหรือสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ ในทางกลับกัน ในงานศิลปะ เขามักถูกพรรณนาว่าเป็นชายหนุ่มนักกายกรรมที่ถือลูกธนูและธนู มีความเชื่อว่าชื่อตั้งต้นที่มอบให้กับเทพเจ้าองค์นี้คืออีรอส เขายังคิดว่าเป็นบิดาของดาวศุกร์และดาวอังคารด้วย



เรื่องราวดังต่อไปนี้กามเทพหลงรักหญิงสาวที่ชื่อไซคี เสน่ห์ดึงดูดใจจุดประกายด้วยความงามของเธอ เขาจึงล่อเธอด้วยธนูวิเศษ ไซคีสามารถต้านทานเสน่ห์ของเขาได้ แต่เธอกลับหลงรักพลังของลูกธนูอย่างลึกซึ้ง นี่ไม่ใช่ประสบการณ์ที่น่ายินดีสำหรับแม่ของเธอ ซึ่งเป็นเหตุผลว่าทำไมเธอถึงบอกกามเทพให้กลับไปยังดาวศุกร์ คิวปิดใส่ใจต่อคำแนะนำของเธอและไม่เต็มใจที่จะทิ้งความหลงใหลของเขาไว้กับไซคี จากนั้นพวกเขาก็กลับมาพบกันอีกครั้งในวังสวรรค์ กามเทพขออนุญาตให้ซุสทำพิธีแต่งงาน ซุสตกลงเพื่อแลกกับความช่วยเหลือในอนาคตของคิวปิดกับหญิงสาวผู้เลือกสรร เทพเจ้าเสนอ Psyche Ambrosia ซึ่งเป็นเครื่องดื่มอมตะ



เทพีแห่งความรักของโรมันมักแสดงโดยถือพิณหรือคันธนูและลูกธนู ผมยาวสลวยของเขาดูเปล่งประกาย พวงมาลัยลอเรลสามารถสวมที่คอของเขาเพื่อทำหน้าที่แทนสัญลักษณ์ของชาวเวอร์จิเลียน โดยพูดว่า "amor vincit Omnia" และหมายถึงความรักที่มีชัยชนะเหนือทุกสิ่ง เขาดูซุกซนเพราะบุคลิกที่ร่าเริงของเขา เขาไม่คำนึงถึงความถูกต้องหรือศีลธรรม และใส่ความกระตือรือร้นเข้าไปในหัวใจที่ไม่เช่นนั้นจะเป็นโสดตามกฎหมาย เทพเจ้าผู้ร่าเริงของเขายังดึงดูดแม่สามีของเขาด้วยซ้ำ ทำให้เธอมีส่วนร่วมในเรื่องทางเพศมากมาย



ดาวศุกร์



วีนัสเป็นเทพีแห่งความงาม ความรักความอุดมสมบูรณ์ ความงาม และสวนของโรมัน นอกจากนี้เธอยังเป็นหนึ่งในมารดาของคิวปิดและยิงธนูแห่งความหลงใหลในหัวใจของทั้งชายและหญิง คิวปิด เทพเจ้าแห่งความโรแมนติกที่ปรากฏอยู่ในการ์ดอวยพรวันวาเลนไทน์หลายแบบ รวมถึงงานศิลปะและภาพวาดยุคเรอเนซองส์ ถือเป็นรูปเทวดาเครูบ ช่วงเวลาที่เขาโด่งดังคือช่วงยุคกลาง และระหว่างยุคเรอเนซองส์ เมื่อความหลงใหลในเทพนิยายกลับมาอีกครั้ง เขาก็มีชื่อเสียงอย่างมาก







Venus Like Aphrodite ในตำนานเทพเจ้ากรีกเป็นหญิงสาวที่สวย มีผมสีทองสวยงามและมีลักษณะที่ละเอียดอ่อน ภาพที่พบบ่อยที่สุดของเธอคือการอุ้มเด็กในครรภ์หรือดอกไม้เพื่อแสดงด้านความเป็นแม่ของเธอ แม้ว่าโดยปกติแล้วเธอจะเปลือยเปล่า แต่ความสุภาพเรียบร้อยของเธอไม่ได้เป็นเพียงแค่เรื่องของความต้องการทางเพศเท่านั้น



ดาวศุกร์ถูกรวมเข้าไว้ในวิหารแพนธีออนของโรมันอย่างเป็นทางการประมาณศตวรรษที่ 3 ก่อนคริสตศักราช ว่ากันว่าดาวศุกร์มีส่วนสำคัญในการช่วยให้โรมชนะสงครามพิวนิกร่วมกับชาวคาร์ธาจิเนียน เธอยังเพลิดเพลินกับชื่อเสียงของการเป็นเทพธิดาที่รู้จักความงาม ความโรแมนติก และความเย้ายวนใจของเธอ ชื่อของเธอได้รับการยกย่องว่าเป็นมารดาของอีเนียสซึ่งเป็นบิดาของโรม และจูเลียส ซีซาร์ได้เชื่อมโยงมรดกของครอบครัวของเขากับเชื้อสายของเธออย่างเปิดเผย



เชื่อกันว่าชาวโรมันได้บูชาเทพเจ้ากรีกโบราณอย่างอีรอสและแอโฟรไดท์ที่วัดของพวกเขา รวมทั้งระบุว่าวีนัสเป็นเทพด้วย ตรงกันข้ามกับ Aphrodite และ Eros วีนัสเป็นเทพีแห่งความรัก โรมัน วีนัสมีความหลงใหลนอกเหนือจากความรัก และเธออิจฉาความโรแมนติกของลูกชายกับไซคีซึ่งเป็นผู้หญิงที่เธอรัก



ความอิจฉานี้สามารถเห็นได้ในตำนานเกี่ยวกับลูกสาวของวีนัส คิวปิดและไซคี คิวปิดเป็นคู่รักของผู้หญิงและผู้ชายทุกคน ในขณะที่ไซคีมีความผูกพันอันแน่นแฟ้นกับอีรอสสามีของเธอ กามเทพมีด้านทางเพศที่ขี้เล่น ซึ่งมักแสดงออกผ่านกลอุบายและเกมที่สนุกสนานของเขา กามเทพยิงธนูแห่งความรักโดยไม่คำนึงถึงศีลธรรมหรือลักษณะของเหยื่อ



รูปปั้นวีนัสที่เก่าแก่ที่สุดที่ค้นพบคือรูปปั้นขนาดมหึมาที่แสดงภาพเธอนั่งอยู่บนแท่นบูชาพร้อมกับนก พิพิธภัณฑ์ลูฟร์เป็นที่ตั้งของรูปปั้นดาวศุกร์ที่มีอายุย้อนกลับไปตั้งแต่ศตวรรษที่ 2 หรือ 3 ก่อนคริสตศักราช ผมยาวสีเข้มของผู้หญิงประดับด้วยขอบทอง ชุดที่เธอสวมนั้นหุ้มด้วยทองคำ สีสันของเธอยังคงสดใสเพื่อเน้นใบหน้าที่น่ารักของเธอและเผยให้เห็นรูในหูที่เธอเคยใส่ต่างหู



จิตใจ



ในฐานะลูกสาวคนโตของราชาราชินีที่ไม่เปิดเผยชื่อ Psyche มีความสวยงามอย่างไม่น่าเชื่อ ความงามของเธอน่าทึ่งมากจนแม้แต่แอโฟรไดท์ก็ไม่สามารถเทียบเคียงเธอได้ วีนัสอารมณ์เสียเพราะผู้คนเริ่มบูชาไซคีมากกว่าอะโฟรไดท์ เธอจึงสั่งให้กามเทพลูกของเธอช่วยให้ไซคีกลายเป็นคนรักของผู้ชายที่เลวทรามที่สุด



คิวปิดยอมรับการท้าทาย อย่างไรก็ตาม เขาหลงใหลในความงามของแม่มากจนเขาหลงรักตัวเอง เพื่อป้องกันไม่ให้ตัวเองติดกับดักแบบเดียวกับเธอ เขาจึงทำให้ไซคีไม่มีใครสังเกตเห็น ในตอนกลางคืนเขาจะอยู่กับเธอในที่ลับบนเตียงของเธอ และพวกเขาไม่ได้รับอนุญาตให้เห็นหน้าของเขา แต่วันหนึ่ง ขณะที่เธอพิงตะเกียงเพื่อดูรายละเอียดให้เขาฟังมากขึ้น ก็มีน้ำมันหยดหนึ่งหยดลงบนหน้าผากของเขา ซึ่งทำให้เขาตื่นขึ้น เขาเสียใจมากที่น้ำมันจมหายไปโดยไม่พูดอะไร ทิ้งเธอไว้อย่างไร้เสียงและอกหัก



Psyche ตั้งใจแน่วแน่ว่าจะไม่ตกหลุมรักอีกต่อไป แต่เมื่อหลายปีผ่านไปเมื่อเธอเห็นพี่สาวฝาแฝดของเธอแต่งงานกันและกลายเป็นพ่อแม่เริ่มกังวลเกี่ยวกับการสร้างความวุ่นวายในครอบครัวของเธอ คำทำนายที่เธอไปเยี่ยมชมเพื่อดูว่าจะทำอะไรได้บ้าง แต่ผลลัพธ์ก็น่าตกใจ นักทำนายบอกเธอว่าเธอผูกพันที่จะแต่งงานกับมังกรที่มีรูปร่างคล้ายสัตว์ที่จะตระเวนไปทั่วโลก ทรมานทุกคนด้วยเหล็กและเปลวไฟ



หลังจากนั้น เธอก็เดินทางไปทั่วโลกเพื่อตามหาความรักลึกลับของเธอ ความพยายามอย่างสิ้นหวังที่จะเอาชนะความรักของสามีเธอกลับล้มเหลว และสุดท้ายเธอก็ได้รับความช่วยเหลือจากวีนัส งานของเธอทำงานหนักโดยเทพธิดา ซึ่งรวมถึงการเดินทางข้ามแม่น้ำ และการขโมยขนแกะสีทองจากแกะ ซึ่งอีกแหล่งหนึ่งระบุว่าเป็นของเฮลิออส



คิวปิดกำลังรอต้อนรับเธอเพื่อกลับมาหลังจากทำงานเสร็จ คิวปิดรู้สึกประทับใจกับความสันโดษของเธอมากจนเริ่มโผล่ขึ้นมาที่หน้าผากด้วยท่าทางไร้เดียงสา เหตุการณ์นั้นทำให้เขาตื่นขึ้นและทำให้เขารู้ว่าเขาตกหลุมรักไซคี จากนั้นเขาก็ทำให้ตัวเองรู้จักเธอ และในที่สุดพวกเขาก็ผูกปมกัน อย่างไรก็ตามพวกเขาก็ไม่ใช่อมตะ พวกเขาสามารถอยู่ได้เพียงชั่วครู่ก่อนที่จะกลับบ้านที่ Underworld



อะโฟรไดท์



ในตำนานเทพเจ้ากรีกแอโฟรไดท์เป็นเทพเจ้าแห่งความรัก ความงาม การให้กำเนิด และความรัก เทพธิดาในตำนานมักถูกพรรณนาว่าเป็นผู้หญิงที่มีเสน่ห์ผมยาวสีทอง รูปภาพส่วนใหญ่ของเธอมีดวงตาสีฟ้าอ่อน อย่างไรก็ตาม บางครั้งมันก็เป็นสีเขียว รูปร่างหน้าตาของเธอส่วนใหญ่ไม่มีการตกแต่ง อย่างไรก็ตาม ในบางกรณี มีบางครั้งที่เธอมีสัตว์หรือเด็กเข้าร่วมด้วย รูปปั้นที่มีชื่อเสียงที่สุดของเธอคือรูปปั้น Venus de Milo ซึ่งตั้งอยู่ภายในพิพิธภัณฑ์ลูฟร์ในกรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส



แอโฟรไดท์ได้รับการยกย่องจากชาวกรีกว่าเป็นเทพธิดาที่งดงามที่สุดแห่งหนึ่ง ภาพลักษณ์ของเธอมักถูกมองว่าเป็นแบบอย่างด้านความงามในหมู่มนุษย์ มีวัดหลายแห่งที่อุทิศให้กับเธอในกรีซ ซึ่งรวมถึงเอเธนส์, โครินธ์, สปาร์ตา และซิเธอรา ภูมิภาคอื่นๆ ของทะเลเมดิเตอร์เรเนียนก็นับถือเธอเช่นกัน



อะโฟรไดท์เป็นบุตรของซุสและไดโอน เทพแห่งก็อดสามพระองค์ ตำนานของอโฟรไดท์เล่าว่าเธอมีต้นกำเนิดมาจากโฟมในทะเลซึ่งเกิดฟองขึ้นเมื่อดาวยูเรนัสถูกสังหารและโยนอวัยวะเพศของเขาลงสู่มหาสมุทร ใน Theogony ของ Hesiod เธอมีความสามารถในการสร้างมนุษยชาติให้รัก นอกจากนี้เธอยังเป็นผู้อุปถัมภ์การเจริญพันธุ์ของผู้หญิงและการคลอดบุตร นอกจากนี้เธอยังปกป้องลูกเรือในทะเลอีกด้วย



อะโฟรไดท์เป็นที่ชื่นชอบของทั้งชายและหญิง เฮร่า เช่นเดียวกับเอเธน่าและเอธีน่าที่กำลังมองหาแอปเปิ้ลจำนวนหนึ่งให้กับเจ้าชายทรอย ทำให้เฮอร์มีสเริ่มการแข่งขันระหว่างพวกเขา เพื่อตัดสินว่าใครจะเป็นผู้ชนะ Aphrodite เป็นผู้ชนะ และต่อมาตกหลุมรักเจ้าชายโทรจันที่ชื่อ Anchises เขาถูกล่อลวงโดยเธอแกล้งทำเป็นพรหมจารี ในที่สุดเธอก็ออกมาหาเขาและมอบเด็กชายที่มีเชื้อสายสูงส่งให้เขา



เมื่อพูดถึงสงครามโทรจัน แอโฟรไดท์สนับสนุนโทรจัน เธอยังปกป้องอีเนียสลูกชายของเธอจากความโกรธเกรี้ยวของไดโอมีดีส ไดโอมีดีส ฮีโร่โทรจัน การแต่งงานของเธอเกิดขึ้นในเวลาต่อมากับ Hephaistos ลูกๆ ของเธอประกอบด้วยอีรอส ซึ่งเป็นเทพเจ้าแห่งความรักของกรีก และเฮอร์มาโฟดิโตส เทพเจ้าแห่งกระเทย



ชาวโรมันนับถืออะโฟรไดท์ในฐานะวีนัส เทพีแห่งความรัก คุณลักษณะมากมายของเธอ ได้แก่ เข็มขัดมรกตและกระจกที่เต็มไปด้วยเวทมนตร์ซึ่งทำให้ผู้คนตกหลุมรัก นกพิราบและนกนางแอ่นเป็นหนึ่งในสิ่งที่เธอรักมากที่สุด